ภาคเหนือ
จังหวัดกำแพงเพชร สีเสียดแก่น (Acacia catechu Willd.) ชื่ออื่น สีเสียดเหนือหรือสะเจ สีเสียดแก่น เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร เปลือกสีเทา ใบประกอบรูปขนนก ใบย่อยขนาดเล็ก เรือน ยอดรูปกรวย ขึ้นได้ในที่แห้งแล้งและภูเขาหิน พบทางภาคเหนือ ออกดอกในเดือน เมษายน-เดือนพฤษภาคม ดอกสีเหลืองกลิ่นหอม เป็นช่อคล้ายหางกระรอก ผลเป็นฝัก แบน ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด เนื้อไม้แข็ง และเหนียว ใช้ทำสิ่งก่อสร้างที่ต้องรับ น้ำหนักมาก เช่น เสา คาน สะพาน แก่นให้น้ำฝาดใช้ฟอกหนัง ใช้ย้อมผ้า แห อวน ก้อน
สีเสียดเป็นยาสมานแผล แก้โรคท้องร่วง
จังหวัดเชียงราย กาสะลองคำ (Radermachera ignea (Kurz) Steenis) ชื่ออื่น ปีบทอง สะเภา อ้อยช้าง จางจืด สำเภาหลามต้น กากี หรือแคะเป๊าะ กาสะลองคำเป็นไม้ยืนต้นชนิดผลัดใบ สูง 6-10 เมตร ใบประกอบรูปขนนก ขึ้นตามเทือกเขาหินปูนที่ชื้นทางภาคเหนือ ออกดอก ในเดือนมกราคม-เมษายน ดอกสีเหลือง อมส้ม ออกเป็นกระจุกตามกิ่งและลำต้น เมล็ดมี
ปีก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ปักชำ และชำหน่อ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ
จังหวัดเชียงใหม่ ทองกวาว (Butea monosperma (Lamk) Taub.) ชื่ออื่น ก๋าว กวาว จอมทอง จ้า จาน ทองธรรมชาติ ทองพรหมชาติ หรือทองต้นทองกวาวเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบสูง 8-15 เมตร เปลือกสีเทา ใบประกอบเป็นรูปขนนก ออกสลับกันคล้ายรูปไข่ ปลายมน โคนสอบ ขึ้นตามที่ราบลุ่มตามป่าผลัดใบ ป่าละเมาะ ออกดอกในเดือนธันวาคม-มีนาคม ดอกขนาด ใหญ่ สีเหลืองแดงถึงแดงแสด ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด เปลือก ใช้ทำเชือก กระดาษ ใบใช้รักษาแผลสิว แก้ปวดท้อง ริดสีดวง ดอกใช้ถอนพิษไข้ ขับ ปัสสาวะ ใช้ย้อมผ้า เมล็ดใช้ขับพยาธิตัวกลม หรือบดให้ละเอียดละลายน้ำใช้ทาแก้คันและแสบร้อน
จังหวัดตาก แดง (Xylia xylocarpa Var. kerrii (Craib & Hutch.) I. Nielsen) ชื่ออื่น ปราน สะกรอม ตะกร้อม เพร่ จาลาน คว้าย ไคว หรือกร้อม แดงเป็นไม้ยืนต้นชนิดผลัดใบ สูง 15-20 เมตร เปลือกเทาอมแดง ใบประกอบรูปขนนกเรียงสลับกัน แผ่นใบย่อยรูปไข่ แดง เป็นพันธุ์ไม้หลักของป่าเบญจพรรณ และป่าเต็ง ออกดอกในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ดอกขนาดเล็กสีเหลือง กลิ่นหอม ออกเป็นกระจุกบนก้านช่อ ฝักมีรูปร่างคล้ายไต ยาว 7- 10 เซนติเมตร ฝักแก่สีน้ำตาลอมเทา เมล็ดแบน ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด ไม้เนื้อแข็ง เหนียว และทนทาน ใช้ก่อสร้างบ้านเรือน ต่อเรือ และหมอนรองรถไฟ
จังหวัดนครสวรรค์ เสลา (Lagerstroemia loudoni Teijsm. & Binn.) ชื่ออื่นเกรียบ ตะเกรียบ ชอง (จันทบุรี), ตะแบกขน (นครราชสีมา), เสลาใบใหญ่ (ทั่วไป) เสลาเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง 10 -20 เมตร เรือนยอดกลมทึบ กิ่งห้อยลง ใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน ผิวใบมีขนนุ่มทั้ง สองด้าน ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง สีม่วง ม่วงอมชมพูหรือม่วงอมขาว ออกดอกช่วงเดือน ธันวาคม-มีนาคม ผล เมล็ดมีปีกจำนวนมาก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ประโยชน์ ไม้ทำเครื่องแกะสลัก ด้ามเครื่องมือ หรือปลูกเป็นไม้ประดับ
จังหวัดน่าน กำลังเสือโคร่ง (Betula alnoides Buch-Ham.) ชื่ออื่น กำลังพญาเสือโคร่ง กำลัง เสือโคร่งเป็นไม้ยืนต้น สูง 20-35 เมตร เปลือกสีน้ำตาลเทา ใบเดี่ยวรูปไข่ ใบหยัก พบขึ้น ตามป่าดงดิบ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 800-1,800 เมตร มักพบทางภาคเหนือและ ตะวันออกเฉียงเหนือ ออกดอกตลอดทั้งปี ช่อดอกเป็นพวงออกตามง่ามใบและปลายกิ่ง ผลรูปร่างแบน ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด เนื้อไม้สีน้ำตาลอ่อนขัดเงาได้สวยงาม ใช้ทำพื้น เครื่องเรือน ก่อสร้าง เปลือกไม้มีกลิ่นคล้ายการบูร ใช้เป็นยาบำรุงร่างกายและเจริญอาหาร แก้ปวดเมื่อย
จังหวัดพะเยา สารภี (Mammea siamensis T. Anders.) ชื่ออื่น สารภีแนน ทรพี สร้อยพี สารภี เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร เปลือกสีดำ ใบเดี่ยวออกสลับกัน แผ่นใบรูปไข่ ปลายมน พบตามป่าเบญจพรรณ ออกดอกในเดือนมกราคม-มีนาคม ดอกสีขาว เส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 1.5 เซนติเมตร กลิ่นหอม ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ผลเป็นรูปกระสวย ยาว ประมาณ 2.5 เซนติเมตร ผลสุกมีสีเหลือง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด ไม้ใช้ทำเสา พื้น ฝา ดอกใช้บำรุงปอด และผลมีรสหวานรับประทานได้
จังหวัดพิจิตร บุนนาค (Mesua ferrea Linn.) ชื่ออื่น ปะนาคอ นาคบุตร สารภีดอย ค้ำก่อ ก๊า หรือก่อ บุนนาคเป็นไม้ยืนต้นสูง 15-25 เมตร ลำต้นสีน้ำตาล ใบเดี่ยว แผ่นใบรูปหอกพบ ประปรายในป่าดงดิบ ในภาคเหนือและภาคใต้ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 200-700 เมตร ออกดอกในเดือนมีนาคม-กรกฎาคม ดอกสีขาวและสีเหลืองอ่อน ออกเป็นกระจุก ตามง่ามใบ กลิ่นหอม ผลกลม มีเมล็ด 1-2 เมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด เนื้อไม้ใช้ ในการก่อสร้าง ต่อเรือใบ ดอกใช้บำรุงโลหิต น้ำมันที่กลั่นจากเมล็ดใช้จุดตะเกียง และทำ เครื่องสำอาง
จังหวัดพิษณุโลก ปีบ (Millingtonia hortensis Linn. F.) ชื่ออื่น กาซะลอง ปีบเป็นไม้ยืนต้นชนิด ผลัดใบ สูง 5-25 เมตร เปลือกนุ่มหยุ่นแตกเป็นร่องลึก ใบประกอบรูปขนนก ปลายเรียว แหลม พบขึ้นในป่าเบญจพรรณแถบภาคตะวันตกเฉียงใต้ ออกดอกในเดือนกันยายน- พฤศจิกายน ดอกสีขาวกลิ่นหอม ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งยาว 10-40 เซนติเมตร ปลายบาน คล้ายแตร กว้าง 2 เซนติเมตร และยาว 2.5-8 เซนติเมตร ผลเป็นฝักแบน กว้าง 1.5-2 เซนติเมตร และยาว 28-36 เซนติเมตร มีเมล็ดจำนวนมาก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด เนื้อไม้ใช้ทำเครื่องเรือน เครื่องประดับบ้าน รากใช้เป็นยาบำรุงปอด แก้หอบ รักษาวัณโรค เปลือกทำจุกก๊อก ส่วนดอกสูดดมแก้หอบหืด
จังหวัดเพชรบูรณ์ มะขาม (Tamarindus indica Linn.) ชื่ออื่น หมากแกง ตะลูบ หรือขาม มะขาม เป็นไม้ยืนต้น 20 เมตร เปลือกหนาสีน้ำตาลเข้ม ใบประกอบเป็นรูปขนนก ขึ้นได้ทุกภาค แต่พบมากในจังหวัดเพชรบูรณ์ ออกดอกในเดือนพฤษภาคม ดอกขนาดเล็ก สีเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อตามง่ามใบและปลายกิ่ง ผลเป็นฝัก กว้าง 1-2.5 เซนติเมตร และยาว 5-15 เซนติเมตร เนื้อมีรสเปรี้ยวและหวาน มี 3-12 เมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด และ ทาบกิ่ง เปลือกต้มกับน้ำและน้ำปูนใสใช้แก้ท้องเดิน เนื้อไม้ใช้ทำเขียง เผาถ่าน น้ำต้มใบ มะขามช่วยย่อยและขับปัสสาวะ ใบ ดอก และฝักใช้รับประทานเป็นอาหาร เนื้อในฝักเป็น ยาระบายอ่อนๆ แก้ไอขับเสมหะ
จังหวัดแพร่ ยมหิน (Chukrasia velutina Roem.) ชื่ออื่น ยมขาว สะเดาช้าง มะเฟืองช้าง โค้โย่ง หรือเสียดค่าย ยมหินเป็นไม้ยืนต้นชนิดผลัดใบ สูง 15-25 เมตร เปลือกสีน้ำตาล ใบประกอบเรียงสลับกัน ใบย่อยรูปดาบ เรือนยอดเป็นพุ่ม ขึ้นในป่าเบญจพรรณแล้งชื้น พบมากในภาคเหนือ ออกดอกตลอดทั้งปี ดอกเล็ก สีเขียวอมเหลือง ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ผลเล็กแข็ง กลม และรี ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด เนื้อไม้ ใช้ก่อสร้างบ้าน ทำเสากระดาน เครื่องเรือน และทำไม้อัด
จังหวัดแม่ฮ่องสอน กระพี้จั่น (Millettia brandisiana Kurz) กระพี้จั่นเป็นไม้ยืนต้นชนิดผลัดใบ สูง 8-20 เมตร เปลือกมีสีเทา ใบประกอบรูปขนนก ใบย่อยรูปทรงรี กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร และยาว 3-4.5 เซนติเมตร ปลายทู่ โคนมน ขึ้นได้ดีในเขตร้อนออกดอกในเดือนมีนาคม- พฤษภาคม ดอกสีขาวปนม่วง ออกตามง่ามใบ มีฝักแบน ส่วนโคนแคบกว่าตอนปลายกว้าง 2-2.5 เซนติเมตร และยาว 9-12 เซนติเมตร เปลือกเกลี้ยงหนา เมล็ดสีน้ำตาลดำมี 1-4 เมล็ดต่อฝัก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด และปักชำ เนื้อไม้ใช้ทำเยื่อกระดาษ ของเด็กเล่น และดอกไม้ประดิษฐ์
จังหวัดลำปาง ขะจาว (Holoptelea integrifolia (Roxb.) Planch.) ชื่ออื่น กาซาว กระเจา กะเชา กะเซาะ กระเช้า กาจอ หรือมหาเหนียว ขะจาวเป็นไม้ยืนต้นชนิดผลัดใบ สูงประมาณ 25 เมตร ลำต้นตรง เปลือกสีน้ำตาลปนเทา ใบเดี่ยวเรียงสลับ แผ่นใบรูปรีป้อมกว้าง 5-8 เซนติเมตร และยาว 8-14 เซนติเมตร โคนใบมนป้าน ปลายใบเรียวแหลม ก้านใบยาว ประมาณ 1 เซนติเมตร เรือนยอดเป็นพุ่ม ค่อนข้างทึบ พบตามป่าเบญจพรรณแล้ง ใน บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ออกดอกใน เดือนธันวาคม-มกราคม ดอกขนาดเล็ก ออกเป็นกระจุกตามง่ามใบ ผลคล้ายโล่ กว้างและ ยาว 2-3 เซนติเมตร ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด เนื้อไม้ทำสิ่งก่อสร้าง ทำเครื่องมือ ทางการเกษตร ทำพานท้ายปืน เปลือกใช้ทำยารักษาโรคเรื้อนของสุนัข ป้องกันเห็บ ใช้เป็น ยาแก้ปวดตามข้อ
จังหวัดลำพูน จามจุรี (Samanea saman (jacq.) Merr.) ชื่ออื่น ก้ามปู ก้ามกราม ก้ามกุ้ง ฉำฉา สารสา หรือลัง จามจุรีเป็นไม้ยืนต้น สูง 10-20 เมตร เปลือกสีดำ ใบประกอบเป็นรูปขนน กออกสลับกัน ใบย่อยรูปไข่ กว้าง 0.7-4 เซนติเมตร และยาว 1.5-6 เซนติเมตร ปลาย มน เรือนยอดแผ่กว้างคล้ายร่ม ขึ้นทั่วไปในภาคเหนือ ออกดอกในเดือนสิงหาคม- กุมภาพันธ์ ดอกมีขนาดเล็ก สีชมพู ผลเป็นฝัก กว้าง 1.5-2.3 เซนติเมตร และยาว 15- 20 เซนติเมตร ฝักแก่จะมีสีดำ เมล็ดเล็กกลม มี 15-25 เมล็ดต่อฝัก ขยายพันธุ์ด้วยวิธี เพาะเมล็ด เนื้อไม้ใช้ทำเครื่องบุผนัง แกะสลัก และใช้เลี้ยงครั่ง
จังหวัดสุโขทัย มะค่าโมง (Afzelia xylocarpa (Kurz) craib) ชื่ออื่น มะค่าหลวง หรือมะค่าใหญ่ มะค่าโมงเป็นไม้ยืนต้นชนิดผลัดใบสูง 5-10 เมตร แตกกิ่งต่ำ เปลือกสีน้ำตาล ใบประกอบ เรียงสลับกัน ใบรี กว้าง 2-5 เซนติเมตร และยาว 4-9 เซนติเมตร ปลายใบทู่เป็นติ่ง โคน ใบมน พบขึ้นในป่าเบญจพรรณ และป่าดิบแล้งใกล้แหล่งน้ำทั่วทุกภาค ยกเว้นภาคใต้ ออก ดอกในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ดอกสีเขียวอ่อน ออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ยาว 5-15 เซนติเมตร ฝักแบนกว้าง 7-10 เซนติเมตร และยาว 12-20 เซนติเมตร เมล็ดสีดำมันมี 4-5 เมล็ดต่อฝัก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด เนื้อไม้ใช้ทำเสา รอด ตงพื้นไม้ เครื่องแก้ บน ต่อเรือ พานท้ายปืน และกลองโทนรำมะนา
จังหวัดอุตรดิตถ์
ชื่อพรรณไม้ สักชื่อวิทยาศาสตร ? Tectona grandis ลำต้น : เป็นเปลาตรงเปลือกเรียบหรือแตกเป็นร่องเล็ก ๆ สีเทา โคนเป็นพูพอนต่ำ ๆ
ใบ : เป็นใบเดี่ยวใหญ่มาก ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ปลายใบแหลมโคนมน ยาว 25 - 30 เซนติเมตร กว้างเกือบเท่ายาว ใบของต้นอ่อนจะใหญ่กว่า นี้มาก ผิวใบขนสากคายสีเขียวเข้ม ขยี้ใบสดจะมีสีแดงเหมือนเลือด
ดอก : มีขนาดเล็ก สีขาวนวลออกเป็นช่อตาม ปลายกิ่ง ออกดอกและเป็นผลเดือน มิถุนายน - ตุลาคม
ผล : เป็นผลแห้งค่อนข้างกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร เปลือกแข็ง ภายในมี 1 - 3 เมล็ด
จังหวัดอุทัยธานี
ชื่อทั่วไป
- สะเดา
ชื่อสามัญ
- Siamese Neem Tree
ชื่อวิทยาศาสตร์
- Azadirachta indica Juss. var. siamensis Valeton
วงศ์
- Meliaceae
ชื่ออื่นๆ
- สะเดา, สะเลียม, กะเดา, จะตัง สะเดาบ้าน
ถิ่นกำเนิด
- ป่าเบญจพรรณค่อนข้างแล้งและป่าแดง
ประเภท
- ไม้ยืนต้น
- ลำต้น ไม้ยืนต้น สูง 8 - 20 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดทรงกลมค่อนข้างทึบ เปลือกต้นสีน้ำตาลเทา แตกเป็นร่องลึก ยอดอ่อนที่แตกใหม่สีน้ำ ตาลแดง - ใบ ใบประกอบแบบขนนก ปลายคู่ เรียงสลับ ใบย่อยมี 7 - 9 คู่รูปไข่ กว้าง 3 - 4 ซม. ยาว 4 - 7 ซม. ปลายเรียวแหลม ขอบใบหยักฟัน เลื่อย แผ่นใบโค้ง เนื่องจากแผ่นใบ 2 ด้านมีขนาดไม่เท่ากัน - ดอก ดอกช่อ แตกที่ปลายกิ่งพร้อมใบอ่อน กลีบดอก 5 กลีบ ดอกมีขนาด เล็ก สีขาวนวล เกสรตัวผู้ 10 อัน ออกดอกราวเดือน กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม - ผล ผลสดทรงกลมรี ขนาด 1 - 2 ซม. เปลือกบาง เนื้อฉ่ำน้ำ เมื่อแก่มีสี
HOME
|